เช็คลิสต์อุปกรณ์ที่ต้องมี ช่วยคุณสร้าง Vlog ได้อย่างมืออาชีพ  ในปี 2024 ทุกคนต้องรู้จัก Vlog คุณอาจสงสัยว่า Vlogger ใช้อุปกรณ์อะไร ? ในการสร้างคอนเทนต์สุดปังมาให้เราชม วันนี้! Ulanzi Thailand รวบรวม 10 ไอเทมสำคัญที่สาย Vlogger ต้องมีในปี 2024 พร้อมทริคในการเลือกอุปกรณ์ที่ช่วยอัพเกรด Vlogging ของคุณ...แบบมืออาชีพ

1. High-Quality Camera 

คุณภาพของกล้องเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมา การลงทุนในอุปกรณ์กล้องไม่ว่ากล้อง DSLR (Digital Single-Lens Reflex) หรือกล้อง mirrorless มีข้อดีมากมาย เพราะจะช่วยเพิ่มคุณภาพทั้งภาพและวิดีโอให้มีความคมชัดและชัดเจน ทำให้ Vlog ของคุณมีความน่าสนใจและดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้มีผู้ติดตามคอนเทนต์ของเรามากขึ้นในระยะยาว

How to : เลือกกล้องให้ตรงใจสาย Vlog

  • Basic Settings : การเลือกกล้องสำหรับ Vlogging สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณา คือ Resolution (measured in megapixels) , ความสามารถ Autofocus และฟังก์ชันการบันทึกวิดีโอ Video recording ซึ่งการที่กล้องมีความละเอียดที่สูง จะทำให้เห็นรายละเอียดที่ชัดเจนกว่า ส่วน Autofocus ที่รวดเร็วและแม่นยำช่วยให้ภาพของคุณคมชัด โดยเฉพาะในช็อตที่มีการเคลื่อนไหว moving shots สำหรับกล้องรุ่นใหม่ที่สามารถบันทึกวิดีโอแบบ 4K ก็เป็นที่นิยมมากเช่นกัน เนื่องจากความละเอียดแบบ 4K มีคุณภาพที่ดีมีมากกว่ามาตรฐาน HD ถึง 4 เท่า ส่งผลให้วิดีโอดูคมชัดและเป็นมืออาชีพมากขึ้น
  • Easy to Use: กล้องรุ่นเริ่มต้น หลายตัวมาพร้อมกับอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและโหมดถ่ายอัตโนมัติ เหมาะสำหรับมือใหม่ แต่หากคุณมีประสบการณ์ กล้องที่มีฟีเจอร์ขั้นสูงจะช่วยให้คุณควบคุมการตั้งค่าได้เต็มที่
  • Convenient to Take : บางรุ่นมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา ทำให้สะดวกในการพกพา เมื่อเลือกกล้องสำหรับปี 2024 การหาสมดุลระหว่างคุณภาพและความสะดวกสบายเป็นสิ่งสำคัญ

Tips : การถ่ายภาพแบบคมชัด (Best Shots)

  • ใช้ขาตั้งกล้องเพื่อช่วยให้ภาพนิ่ง ลดการสั่นไหว
  • ลองใช้เลนส์ที่หลากหลายเพื่อให้ได้มุมมองที่แตกต่าง ตั้งแต่ภาพมุมกว้างของทิวทัศน์ไปจนถึงภาพถ่ายแบบโคลสอัพ
  • ฝึกใช้การตั้งค่าแบบแมนนวลเพื่อควบคุมค่าการรับแสง รูรับแสง และความเร็วชัตเตอร์ได้เต็มที่ ซึ่งจะช่วยให้คุณสร้างวิดีโอที่ตรงกับสไตล์ของคุณได้

2. Smartphone กล้องคุณภาพที่อยู่ใกล้ตัว

คุณไม่จำเป็นต้องมีกล้องตัวใหญ่ เพื่อสร้าง Vlog ที่น่าสนใจ เพราะในปัจจุบันสมาร์ทโฟนที่มีกล้องคุณภาพดีอาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด โดยเฉพาะสำหรับ Vlogging ที่ต้องการความคล่องตัว สมาร์ทโฟนช่วยให้คุณจับภาพช่วงเวลาสำคัญได้ทันที ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน พร้อมฟีเจอร์บันทึกวิดีโอแบบ 4K ที่ให้ภาพคมชัดและดูเป็นมืออาชีพ อีกทั้งยังมีเครื่องมือตัดต่อและแอปในตัว ช่วยให้คุณตัดต่อและเพิ่มเอฟเฟกต์ได้ทันที เหมาะสำหรับการแชร์คอนเทนต์แบบรวดเร็ว

How to : เลือกสมาร์ทโฟนที่ดี สร้างสรรค์ Vlog ให้น่าสนใจยิ่งขึ้น

  • Optical Image Stabilization (OIS) : ฟีเจอร์นี้ช่วยลดความเบลอที่เกิดจากการสั่นของมือขณะถ่ายวิดีโอ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อคุณเคลื่อนไหวหรือเดินขณะถ่าย เพราะช่วยป้องกันการสั่นไหวได้อย่างดี
  • Advanced Shooting Modes: เลือกสมาร์ทโฟนที่มีโหมดการถ่ายภาพขั้นสูง เช่น Night Mode สำหรับถ่ายในที่แสงน้อย Slow Motion สำหรับเอฟเฟกต์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ และ Portrait Mode สำหรับถ่ายภาพบุคคลแบบ Close up พร้อมฉากหลังเบลอ
  • Multiple Lenses: สมาร์ทโฟนโมเดลใหม่ ๆ จะมาพร้อมเลนส์หลายแบบ เช่น เลนส์มุมกว้าง (wide-angle) เลนส์มาตรฐาน (standard) และเลนส์เทเลโฟโต้ (telephoto) แต่ละเลนส์จะมีฟีเจอร์การถ่ายภาพที่ต่างกัน เลนส์มุมกว้าง (wide-angle) เหมาะสำหรับการถ่ายภาพที่ต้องการเก็บฉากในวงกว้าง ส่วนเลนส์เทเลโฟโต้ (telephoto) จะช่วยซูมวัตถุระยะไกลโดยไม่เสียรายละเอียด

Tips : สร้างสรรค์คอนเทนต์อย่างโปร ด้วยสมาร์ทโฟน

  • แสงธรรมชาติช่วยให้ภาพสวย ดังนั้นควรพยายามถ่ายในช่วงกลางวันหรือใกล้หน้าต่าง หากถ่ายในร่ม การเพิ่มแสงเสริมจะช่วยเพิ่มความสว่างให้ฉาก
  • สมาร์ทโฟนมีความหลากหลายในการจัดมุมกล้อง ลองถ่ายในมุมต่าง ๆ เพื่อสร้างความน่าสนใจและทำให้วิดีโอดูมีไดนามิกมากขึ้น
  • ดาวน์โหลดแอปตัดต่อคุณภาพสูงเพื่อปรับปรุงวิดีโอของคุณ การตัดต่อที่ดีจะช่วยเพิ่มผลลัพธ์ให้แม้กระทั่งฟุตเทจที่เรียบง่าย 

3. Lenses

ทำความรู้จักประเภทของเลนซ์

  • Wide-Angle Lenses : เหมาะสำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์กว้าง ๆ, ถ่ายภาพกลุ่ม หรือถ่าย Vlog ที่ต้องการเก็บบรรยากาศโดยรอบมากขึ้น เลนส์นี้สร้างมิติของพื้นที่ได้ดี เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่าย Vlog การท่องเที่ยวหรือทิวทัศน์ในปี 2024
  • Standard Zoom Lenses : ให้ความยืดหยุ่นในหลายระยะโฟกัส (เช่น 24-70mm) ช่วยให้คุณถ่ายทั้งมุมกว้างและใกล้ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนเลนส์บ่อย ๆ
  • Prime Lenses : เป็นที่รู้จักในเรื่องความคมชัดและค่ารูรับแสงที่กว้างกว่า (เช่น 50mm f/1.8) สร้างโบเก้ (bokeh) ที่สวยงามและทำงานได้ดีในสภาพแสงน้อย
  • Telephoto Lenses : มีประโยชน์สำหรับการถ่ายวัตถุที่อยู่ไกล หรือเพิ่มมิติความลึกให้กับ Vlog โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เกี่ยวกับธรรมชาติหรือกีฬาที่ต้องการซูมเข้าไปยังวัตถุ

การเลือกเลนส์ควรพิจารณาจากสไตล์การถ่ายทำและเนื้อหาของคอนเทนต์ เช่น Wide-Angle Lenses เหมาะกับ Vlogging ขณะที่ Prime Lenses ทำงานได้ดีในสภาพแสงที่ควบคุมได้ หากคุณใช้สมาร์ทโฟนในการทำ Vlog ก็มีเลนส์พิเศษสำหรับอุปกรณ์มือถือ เช่น ชุด Ulanzi Phone Camera Lens 4-in-1  ที่รวมเลนส์ Macro, มุมกว้าง และเทเลโฟโต้ เพื่อเพิ่มความหลากหลายในการถ่าย

Tips : การใช้เลนซ์อย่างมีประสิทธิภาพ

  • ลองใช้เลนส์ที่หลากหลาย เพื่อค้นหาตัวเลือกที่เหมาะกับสถานการณ์การถ่ายทำต่าง ๆ
  • การทดลองใช้เลนส์ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันช่วยให้คุณค้นพบสไตล์และเทคนิคเฉพาะตัว
  • พกชุดทำความสะอาดเลนส์เสมอเพื่อรักษาความสะอาดของเลนส์ ป้องกันฝุ่นหรือรอยเปื้อนที่จะทำให้คุณภาพของภาพลดลง

 

4. Microphone

Clear Audio สามารถดึงความสนใจให้ผู้ชมติดตาม Vlog ของเราได้มากขึ้น : หากผู้ชมฟังไม่ชัดหรือเสียงมีสิ่งรบกวนมากเกินไป พวกเขาอาจหมดความสนใจได้ง่าย การมีคุณภาพเสียงที่ดีจะช่วยยกระดับประสบการณ์การรับชม ทำให้ข้อความของคุณเข้าถึงและน่าสนใจมากขึ้น 

How to : เลือกไมโครโฟนอย่างเหมาะสม

คุณสามารถเลือกไมโครโฟนได้หลากหลายประเภทตามสไตล์การถ่ายทำของคุณ ตามสถานการณ์ที่ต้องการ เช่น

  • ไมโครโฟนหนีบปกเสื้อ (Lavalier) : ไมโครโฟนขนาดเล็กที่สามารถหนีบกับเสื้อผ้า เช่น Ulanzi U-Mic AM18 Wireless Lavalier Microphone เหมาะสำหรับการสัมภาษณ์หรือสถานการณ์ที่ต้องการความคล่องตัว สามารถหนีบไมโครโฟนได้อย่างง่ายดาย ช่วยให้ผู้พูดเคลื่อนไหวได้โดยไม่ต้องถืออุปกรณ์
  • ไมโครโฟนช็อตกัน (Shotgun): ไมโครโฟนประเภทนี้ออกแบบมาเพื่อจับเสียงจากทิศทางที่ต้องการและลดเสียงรบกวนจากรอบข้าง เหมาะสำหรับการถ่ายทำในสภาพแวดล้อมที่มีความเคลื่อนไหว เช่น การถ่ายกลางแจ้งหรือในที่ที่มีผู้คนเยอะ
  • ไมโครโฟน USB : ไมโครโฟนประเภทนี้เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ เหมาะสำหรับพอดแคสต์, การทำเสียงพากย์, และการสตรีม ตั้งค่าและใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น และทำงานได้ดีในสตูดิโอหรือในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมได้

Tips : ทำให้ Vlog มีคุณภาพเสียงที่ดีที่สุด

  1. Sound Check ทุกครั้งก่อนเริ่มบันทึก โดยพูดใส่ไมโครโฟนและตรวจสอบระดับเสียงเพื่อให้แน่ใจว่าเสียงไม่เบาเกินไปหรือดังจนเกิดเสียงแตก
  2. เลือกใช้ Windshield หรือ Dead cat เพื่อคลุมไมโครโฟน ช่วยบล็อกลมเพื่อให้การบันทึกกลางแจ้งชัดเจนขึ้น
  3. วางตำแหน่งไมโครโฟนให้อยู่ใกล้ผู้พูดมากเท่าไหร่ คุณภาพเสียงจะยิ่งดีขึ้น
  4. ติดไมโครโฟน Lavalier ใกล้ปากผู้พูดเพื่อจับเสียงได้ชัดเจน ลดเสียงรบกวน
  5.  

5. Tripod or Gimbal Stabilizer

การใช้ขาตั้งกล้อง (Tripod) ช่วยให้ภาพนิ่งและคมชัด สำหรับการถ่ายในสถานการณ์คงที่ เช่น การสัมภาษณ์, การสอน หรือการถ่ายวิวทิวทัศน์ ภาพที่สั่นจะทำให้ผู้ชมเสียสมาธิและรับชมเนื้อหาได้ยาก แต่การใช้ขาตั้งจะช่วยให้ภาพนิ่งมากขึ้น ในขณะที่ Gimbal Stabilizer จการรักษาความนิ่งของกล้องหรือสมาร์ทโฟนเมื่อมีการเคลื่อนไหว ซึ่งช่วยลดการสั่นสะเทือนและทำให้วิดีโอออกมาดูราบรื่นและมืออาชีพมากขึ้น 

How to : เลือก Tripod หรือ Gimbals

  • Tripod : เลือกขาตั้งที่รองรับน้ำหนักของกล้องได้ ขาตั้งน้ำหนักเบาเหมาะสำหรับการเดินทาง เพราะสามารถพกพาและตั้งค่าได้ง่าย มองหาคุณสมบัติที่ปรับความสูงได้และมีแผ่น Quick-Release Plate ที่ช่วยให้ติดตั้งและถอดกล้องได้อย่างรวดเร็ว ขาตั้งที่หนักกว่าเหมาะสำหรับการใช้งานในสตูดิโอ โดยเฉพาะเมื่อใช้กล้องหรืออุปกรณ์ที่มีขนาดใหญ่ เช่น Ulanzi TT38 ClickOpen Tabletop Tripod ที่มีระบบกางออกแบบคลิกเดียว และรองรับน้ำหนักได้ถึง 3 กิโลกรัม พร้อมแผ่นยางซิลิโคนกันลื่น
  • Gimbals : ควรเลือก Gimbals ที่สามารถเข้าได้กับอุปกรณ์ที่คุณต้องการใช้ เช่น Smartphone หรือกล้อง DSLRs และต้องตรวจสอบน้ำหนักเพื่อเลือก Gimbals ที่สามารถรองรับน้ำหนักให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ที่คุณเลือกใช้ บางรุ่นมีฟีเจอร์เสริม เช่น โหมด Follow และ Joystick Controls 

Tips : การเลือกใช้อย่างมีประสิทธิภาพ

  1. Tripod : สำหรับฉากที่ไม่ต้องการเคลื่อนไหว เช่น การสัมภาษณ์หรือการแสดงสินค้า ขาตั้งเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะช่วยให้การจัดเฟรมภาพนิ่งและชัดเจน
  2. Gimbals : สำหรับการถ่ายทำที่เคลื่อนไหว Gimbals จะทำให้ภาพนิ่งและมืออาชีพมากขึ้น
  3. ตรวจสอบความสมดุลของ Gimbals หากการตั้งค่าไม่สมดุล ภาพจะออกมาไม่ดี ต้องปรับ Gimbals ให้กล้องอยู่ในแนวระดับเสมอ
  4. ฝึกฝนการใช้ทั้ง Tripod และ Gimbal เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การเข้าใจอุปกรณ์แต่ละชิ้นจะช่วยให้การถ่ายทำราบรื่นและได้ภาพที่มีคุณภาพ

6. อุปกรณ์จัดแสง (Lighting)  

แสงที่ดีช่วยลดเงาแข็งกระด้าง เน้นรายละเอียดสำคัญและทำให้ภาพโดยรวมดูสวยงาม เมื่อฉากได้รับการจัดแสงที่ดี จะทำให้ตัวแบบดูสดใสและดึงดูดสายตามากขึ้น ในทางกลับกัน การจัดแสงที่ไม่ดีทำให้วิดีโอดูหมองและไม่น่าสนใจ

How to : เลือกอุปกรณ์จัดแสง ช่วยให้ Vlog ของคุณมีมิติ

  • LED Panel Lights : มีความยืดหยุ่นสูงและให้แสงที่สม่ำเสมอ มักจะมีน้ำหนักเบา ประหยัดพลังงาน และปรับระดับความสว่างและอุณหภูมิของแสงได้ เหมาะกับการถ่ายทำในสภาพแสงต่าง ๆ เช่น Ulanzi VIJIM K22 LED Key Light ที่มีฟีเจอร์ควบคุมระยะไกลได้ถึง 30 เมตร
  • Ring Lights : เหมาะสำหรับวิดีโอแนวแต่งหน้าและถ่ายภาพบุคคล เนื่องจากแสงที่ออกมาจะเน้นความสวยงามโดยไม่มีเงาหนัก ทำให้ผิวดูเรียบเนียน ไฟวงแหวนยังเหมาะสำหรับการถ่าย Vlog เช่นกัน โดยสามารถวางรอบกล้องเพื่อให้แสงสว่างใบหน้าเมื่อถ่ายทำหน้ากล้อง
  • Softbox และ Diffuser : Softbox ช่วยกระจายแสงให้ดูนุ่มนวลและเป็นธรรมชาติมากขึ้น เช่น Ulanzi 45cm Quick Release Softbox ที่ออกแบบมาให้พกพาสะดวกสำหรับการถ่ายทำที่ต้องการความคล่องตัว Diffuser จะช่วยลดความแรงของแสง ทำให้แสงนุ่มและไม่แข็งเกินไป เหมาะสำหรับการถ่ายภาพระยะใกล้หรือสัมภาษณ์

Tips : การใช้ไฟอย่างมีประสิทธิภาพ

  1. เลือกมุมที่เหมาะสม : การจัดแสงในมุมต่าง ๆ สามารถเปลี่ยนบรรยากาศของภาพได้ เช่น การวางไฟเหนือและด้านหน้าของตัวแบบจะช่วยเน้นใบหน้า ในขณะที่ไฟจากด้านล่างอาจทำให้ภาพดูไม่สวย
  2. ระวังแสงที่มากเกินไป : การเปิดไฟแรงเกินไปอาจทำให้ภาพดูสว่างเกินและสูญเสียรายละเอียด ควรตรวจสอบการตั้งค่ากล้องและปรับแสงให้พอดี
  3. ใช้แสงธรรมชาติ : การใช้แสงจากหน้าต่างในช่วงกลางวันจะทำให้แสงดูนุ่มนวล แต่ควรระวังสภาพแสงที่เปลี่ยนแปลงซึ่งอาจทำให้วิดีโอไม่สม่ำเสมอ

7. Editing Software

ซอฟต์แวร์ตัดต่อวิดีโอ ช่วยให้ Vlog ของคุณมีกิมมิกที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยการเพิ่มเอฟเฟกต์ การเปลี่ยนฉาก และการแก้ไขสี ช่วยให้ผู้สร้างเนื้อหาสามารถเปลี่ยน Raw Footage ให้เป็น Professional ได้ ซึ่งการตัดต่อที่ดีช่วยให้เรื่องราวติดตามได้ง่าย

HOW TO : เลือกซอฟต์แวร์ตัดต่อวิดีโอ สร้างสรรค์ Vlog อย่างมืออาชีพ

  • Ease of Use : สำหรับผู้เริ่มต้น ควรมองหาซอฟต์แวร์ที่ใช้งานง่ายและ Interface ที่เข้าใจง่าย ซอฟต์แวร์ที่เรียบง่ายและใช้งานง่ายจะช่วยให้การเรียนรู้เป็นไปได้เร็วขึ้น สำหรับผู้ใช้ที่มีประสบการณ์มากขึ้น อาจต้องการซอฟต์แวร์ที่มีฟีเจอร์เพิ่มเติม แต่ควรคำนึงถึงความง่ายในการใช้งานเช่นกัน
  • Available Features : ตรวจสอบว่าซอฟต์แวร์มีเครื่องมืออะไรบ้าง ฟีเจอร์พื้นฐาน เช่น การตัด, ตัดต่อ, และการจัดเรียงคลิป ฟีเจอร์ขั้นสูงอาจรวมถึงเอฟเฟกต์, การผสมเสียง, การปรับสี, และกราฟิกเคลื่อนไหว ควรเลือกซอฟแวร์ให้เหมาะกับสกิลของผู้ใช้งาน
  • Compatibility : ตรวจสอบให้แน่ใจว่าซอฟต์แวร์เข้ากันได้กับคอมพิวเตอร์ของคุณและรองรับไฟล์ฟอร์แมตที่ใช้ในการถ่ายทำ การตรวจสอบนี้จะช่วยป้องกันปัญหาเมื่อการนำเข้าและส่งออกไฟล์วิดีโอ

Tips : ในการตัดต่อวิดีโออย่างมีประสิทธิภาพ

  1. ใช้การเรียนรู้ออนไลน์: หลายแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์มีสอนการใช้งานออนไลน์ที่ช่วยให้ผู้ใช้เรียนรู้ฟีเจอร์ต่าง ๆ นอกจากนี้ การเข้าร่วมฟอรัมชุมชนสามารถให้ข้อมูลและการสนับสนุนที่มีค่า
  2. ฝึกฝนบ่อย ๆ : การทดลองใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ ช่วยให้คุณเก่งขึ้นในการใช้งาน เริ่มต้นจากโครงการสั้น ๆ ทำให้การเรียนรู้ง่ายขึ้นและช่วยให้ทดลองเทคนิคใหม่ ๆ
  3. ใช้เอฟเฟกต์อย่างชาญฉลาด: การใช้เอฟเฟกต์มากเกินไปอาจทำให้ผู้ชมรู้สึกท่วมท้น ควรเลือกใช้เอฟเฟกต์ที่เข้ากับเรื่องราวและบรรยากาศ ไม่ใช่แค่เพื่อโชว์ เอฟเฟกต์ที่ละเอียดและการเปลี่ยนฉากที่เรียบง่ายสามารถสร้างผลกระทบที่ต้องการ
  4. การปรับเสียงให้เหมาะสม : จะช่วยลดเสียงรบกวนและเพิ่มเพลงหรือเอฟเฟกต์เสียง จะทำให้การสนทนาดูชัดเจนและสร้างประสบการณ์การรับชมที่ดียิ่งขึ้น
  5. การปรับโทนสี : การปรับโทนสีช่วยตั้งค่าบรรยากาศ สร้างความต่อเนื่องระหว่างการถ่ายทำ และเพิ่มความสวยงามโดยรวม เริ่มต้นด้วยการปรับ Brightness, Contrast, และ Saturation ก่อนที่จะเรียนรู้เทคนิคการแก้ไขสีที่ซับซ้อนมากขึ้น

8. External Hard Drive หรือ Cloud Storage

การปกป้องไฟล์วิดีโอขนาดใหญ่เป็นสิ่งสำคัญเสมอ เพราะการสูญเสียข้อมูลไปอาจส่งผลกระทบต้องต่อกระบวนการผลิต ไม่ว่าจะเป็นจากความล้มเหลวของฮาร์ดแวร์ การลบไฟล์โดยบังเอิญ หรือไวรัส การสูญเสียข้อมูลสามารถทำให้โครงการหยุดชะงักและทำให้ต้องเสียเวลาในการทำงานอย่างมาก การสำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอช่วยให้คุณมั่นใจและปกป้องงานของคุณ การมีสำเนาของไฟล์สำคัญช่วยลดความเสี่ยงในการสูญหายของเนื้อหาที่มีค่า 

How to : เลือกโซลูชันการจัดเก็บอย่างเหมาะสม

  • ความจุของการจัดเก็บ: ไฟล์วิดีโอสามารถใช้พื้นที่มาก ดังนั้นการเลือกฮาร์ดดิสก์ภายนอกหรือแผนคลาวด์ที่มีความจุเพียงพอสำหรับโครงการปัจจุบันและอนาคตจึงเป็นสิ่งที่ฉลาด
  • ความเร็วในการถ่ายโอน: ความเร็วในการถ่ายโอนที่รวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการอัปโหลดและดาวน์โหลดไฟล์อย่างราบรื่น ฮาร์ดดิสก์ภายนอกมักจะให้การเข้าถึงไฟล์ได้เร็วกว่า Cloud Storage โดยเฉพาะเมื่อทำงานกับไฟล์วิดีโอขนาดใหญ่
  • ฟีเจอร์การสำรองข้อมูล: สำหรับการปกป้องเพิ่มเติม ควรพิจารณาฮาร์ดดิสก์ภายนอกที่มีฟีเจอร์การสำรองข้อมูล เช่น การตั้งค่า RAID การตั้งค่านี้ใช้หลายไดรฟ์ในการสะท้อนข้อมูล ทำให้ถ้าไดรฟ์หนึ่งล้มเหลว ข้อมูลยังคงปลอดภัยในไดรฟ์อื่น

Tips : สำหรับการสำรองข้อมูลและการจัดระเบียบที่มีประสิทธิภาพ

  1. สำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ: การตั้งค่าการเตือนความจำสามารถช่วยให้แน่ใจว่าการสำรองข้อมูลจะไม่ถูกมองข้าม ซึ่ง External Hard Drive และ Cloud Storage สามารถเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูลงานคุณได้
  2. ตรวจสอบการสำรองข้อมูล เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถเข้าถึงข้อมูลและเปิดไฟล์ได้โดยไม่มีปัญหา ขั้นตอนนี้สำคัญสำหรับการทำให้แน่ใจว่าข้อมูลปลอดภัยและสามารถค้นพบได้ในกรณีฉุกเฉิน
  3. หากใช้คลาวด์สตอเรจ ควรพิจารณาใช้เครื่องมือซิงค์อัตโนมัติที่ช่วยให้ไฟล์อัปเดตข้ามอุปกรณ์ เครื่องมือเหล่านี้สามารถสำรองข้อมูล Foottage ใหม่หรือการเปลี่ยนแปลงในไฟล์ที่มีอยู่โดยอัตโนมัติ

9. Portable Charger

การถ่ายทำเป็นเวลานานอาจทำให้แบตเตอรี่หมดอย่างรวดเร็ว Portable Charger จึงเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับ Vlogger และ Creator ที่ต้องเดินทางตลอดเวลา Portable Charger ที่ดีจะช่วยให้การถ่ายทำเป็นไปอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องกังวลว่าอุปกรณ์จะปิดตัวลงกลางคัน การขาดพลังงานอาจทำให้พลาดการถ่ายทำสำคัญหรือทำให้ต้องยกเลิกการถ่ายทำก่อนกำหนด

How to : เลือก Portable Charger ที่เหมาะสม

  • ความจุแบตเตอรี่: ตรวจสอบความจุของแบตเตอรี่ที่วัดเป็นหน่วยมิลลิแอมป์-ชั่วโมง (mAh) ยิ่งมีความจุสูงก็ยิ่งสามารถชาร์จอุปกรณ์ได้นานขึ้น พาวเวอร์แบงค์ขนาด 10,000 mAh สามารถชาร์จสมาร์ทโฟนได้หลายครั้ง ในขณะที่พาวเวอร์แบงค์ขนาดใหญ่กว่านี้สามารถชาร์จแท็บเล็ตและกล้องได้ด้วย
  • ฟีเจอร์การชาร์จเร็ว: เลือกพาวเวอร์แบงค์ที่รองรับการชาร์จเร็ว (Fast Charging) การชาร์จเร็วช่วยประหยัดเวลาและลดช่วงเวลาหยุดพักระหว่างถ่ายทำ ปัจจุบันพาวเวอร์แบงค์หลายรุ่นรองรับ Quick Charge ที่ให้พลังงานมากขึ้นในเวลาที่สั้นลง
  • พกพาง่ายและออกแบบดี: คำนึงถึงขนาดและน้ำหนักของพาวเวอร์แบงค์ การออกแบบที่กะทัดรัดและเบาช่วยให้พกพาใส่กระเป๋าได้ง่าย บางรุ่นยังมาพร้อมกับสายชาร์จในตัวหรือห่วงสำหรับเกี่ยวกระเป๋า

Tips : เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ Portable Charger

  1. ชาร์จอุปกรณ์ก่อนออกเดินทาง: การเริ่มต้นด้วยอุปกรณ์ที่มีแบตเตอรี่เต็มจะช่วยลดโอกาสที่จะต้องหยุดชาร์จระหว่างการถ่ายทำ
  2. ตรวจสอบระดับแบตเตอรี่ของอุปกรณ์เป็นประจำ: การรู้ว่าพลังงานคงเหลือเท่าไรจะช่วยให้สามารถวางแผนเวลาในการชาร์จได้ดีขึ้น และป้องกันการหมดพลังงานกะทันหันในระหว่างการถ่ายทำ
  3. เลือกสายชาร์จคุณภาพดี: สายชาร์จคุณภาพต่ำอาจทำให้ความเร็วในการชาร์จช้าลงหรือไม่ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งอาจทำให้เกิดความยุ่งยากระหว่างการถ่ายทำ

10.  Bag หรือ Backpack เลือกกระเป๋าอย่างไรให้ดีมีคุณภาพ ? 

กระเป๋าที่ดีช่วยปกป้องอุปกรณ์ของคุณจากความเสียหายขณะเดินทาง อีกทั้งยังช่วยให้การจัดเก็บอุปกรณ์เป็นระเบียบและเข้าถึงได้ง่าย ทำให้การเตรียมตัวสำหรับการถ่ายทำเป็นเรื่องสะดวก ลดความยุ่งยากและช่วยให้คุณโฟกัสกับการสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างเต็มที่ 

How To : การเลือกกระเป๋ากล้องให้เหมาะสม

  • กระเป๋าสำหรับอุปกรณ์กล้องโดยเฉพาะ : เลือกกระเป๋าที่ออกแบบมาเพื่อเก็บอุปกรณ์กล้องโดยเฉพาะ โดยมักจะมีช่องบุนวมเพื่อปกป้องอุปกรณ์ที่บอบบาง เช่น กล้อง เลนส์ และไมโครโฟน การบุนวมที่ดีช่วยป้องกันการกระแทกและแรงสั่นสะเทือน
  • ความทนทานและกันสภาพอากาศ : ควรเลือกกระเป๋าที่ทำจากวัสดุที่แข็งแรงและสามารถรับมือกับสภาพอากาศไม่แน่นอนได้ วัสดุกันน้ำช่วยปกป้องอุปกรณ์จากฝนหรือความชื้นขณะถ่ายทำกลางแจ้ง บางรุ่นอาจมาพร้อมกับผ้าคลุมกันฝนเพิ่มเติม
  • ขนาดและความจุ : กระเป๋าควรมีขนาดใหญ่พอที่จะเก็บอุปกรณ์ทุกชิ้นที่จำเป็น โดยไม่ใหญ่หรือเทอะทะเกินไป ควรคำนึงถึงจำนวนอุปกรณ์ที่คุณต้องพกพา ตัวเลือกที่ดีคือ Ulanzi BP10 Hardshell Camera Backpack ที่มีความจุ 35 ลิตร และให้คุณสามารถปรับแต่งพื้นที่ภายในได้ตามต้องการ
  • ฟังก์ชั่นการใช้งานครบ : เลือกกระเป๋าที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบ มีช่องในการจัดระเบียบ เพื่อให้สามารถหยิบอุปกรณ์ที่ต้องการได้รวดเร็วโดยไม่ต้องรื้อค้น

Tips : การใช้งานกระเป๋ากล้องให้มีประสิทธิภาพ

  • จัดเรียงอุปกรณ์อย่างเป็นระบบภายในกระเป๋า จัดกลุ่มอุปกรณ์ที่คล้ายกันไว้ด้วยกันเพื่อให้หาง่ายขณะถ่ายทำ
  • วางอุปกรณ์ที่ใช้บ่อย เช่น แบตเตอรี่ การ์ดหน่วยความจำ และไมโครโฟนไว้ในช่องที่เข้าถึงง่าย เพื่อช่วยให้ตั้งค่าการถ่ายทำได้อย่างรวดเร็ว
  • ตรวจสอบสภาพของกระเป๋าและอุปกรณ์ภายในเป็นระยะ หากพบว่ามีร่องรอยการสึกหรอ เช่น สายรัดที่เริ่มหลุดลุ่ยหรือช่องบุนวมที่
    ไม่แน่น ควรรีบแก้ไขก่อนที่ปัญหาจะลุกลาม
  • สำหรับอุปกรณ์ที่เปราะบาง ควรใช้ถุงใส่เลนส์หรือห่อหุ้มเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มการปกป้อง

เป็นอย่างไรบ้างกับอุปกรณ์เสริมที่คุณไม่ควรพลาด?  Ulanzi Thailand นำเสนออุปกรณ์เสริมกล้องและมือถือครบครันสำหรับสาย Vlogging ทุกไลฟ์สไตล์ ช่วยให้คุณสร้าง Vlog แบบมืออาชีพได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นเลนส์ ไมโครโฟน ขาตั้งกล้อง หรือไฟส่องสว่าง เรามีครบ!